วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

                                                  โรงเรียนที่ชอบ โรงเรียนแก่งคอยวิทยาคม
                                               

                                                                           
                                                    โรงเรียนแก่งคอย เป็นโรงเรียนรัฐบาลประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 (ปทุมธานี สระบุรี) (สังกัดเดิมคือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรี เขต 2) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่บริเวณถนนสุดบรรทัด ตำบลแก่งคอย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายแบบสหศึกษา และเป็นโรงเรียนประจำ

ประวัติ

โรงเรียนแก่งคอย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2494 โดยอาศัยวัดแก่งคอยเป็นสถานที่เรียนชั่วคราว และมีนายฉ่ำ ทองคำ รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ ซึ่งต่อมาได้รับการบริจาคที่ดินจำนวน 6 ไร่จากพระพายัพพิริยกิจให้เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียน โดยยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกรมวิสามัญศึกษาและก่อสร้างอาคารเรียนในปีเดียวกัน[1]
ในปี พ.ศ. 2497 พระพายัพพิริยกิจได้ยกที่ดินจำนวน 22 ไร่ 2 งาน บริเวณจุดตัดของถนนสุดบรรทัด และถนนอุไรรัตน์ ซึ่งเป็นที่ดินของพระพายัพพิริยกิจรวมกับที่ดินที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน และเงินบริจาคจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม จัดตั้งโรงเรียนและก่อสร้างอาคารเรียน โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนแก่งคอยประชาศึกษา มีสถานะเป็นโรงเรียนราษฎร์ อยู่ในความอุปการะของสมาคมวัฒนธรรมฝ่ายหญิงจังหวัดสระบุรี[1]
ในปี พ.ศ. 2509 จังหวัดสระบุรีและกรมวิสามัญศึกษาได้รวมกิจการของโรงเรียนแก่งคอยและโรงเรียนแก่งคอยประชาศึกษา และย้ายมายังสถานที่เรียนของโรงเรียนแก่งคอยประชาศึกษา และใช้ชื่อว่า โรงเรียนแก่งคอย มีสถานะเป็นโรงเรียนรัฐบาลและเป็นโรงเรียนประจำอำเภอแก่งคอย[1]อำเภอแก่งคอย[1]                     






















                                                            ประวัติโรงเรียนมวกเหล็กวิทยา  



                    โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา เป็นโรงเรียนรัฐบาลประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 (ปทุมธานี สระบุรี) ได้รับอนุมัติจากกรมสามัญศึกษาให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายแบบสหศึกษา ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันมีนายวัชรินทร์ มัสเจริญเป็นผู้อำนวย

ในระยะแรกอาศัยอาคารเรียนของโรงเรียนวัดมวกเหล็กนอก (ราษฎร์พัฒนา) มีนักเรียน 46 คน และครู 6 คน มีนายทวี จันทวร เป็นผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียน ต่อมาได้ย้ายมาตังในที่ดินราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) มีเนื้อที่ 41 ไร่ 0 งาน 13 ตารางวา มีอาคารเรียน 1 หลังเป็นแบบ 216 ล ซึ่งเป็น อาคาร 1 ในปัจจุบัน ปีการศึกษา 2521 มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรใหม่ และจำนวนนักเรียนชั้น ม.1 เพิ่มมากขึ้น จึงได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราว 1 หลัง [1]
ปีการศึกษา 2522 ได้รับงบประมาณสร้างหอประชุม 1 หลังอาคารโรงฝึกงาน 3 หลัง จำนวน 6 หน่วยอาคารพยาบาลและสหกรณ์จำนวน 1 หลัง
ปีการศึกษา 2527 โรงเรียนได้รับอนุมัติให้เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีแผนการเรียน 2 แผนการเรียน ได้แก่ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ และแผนการเรียนเกษตรกรรม
ปีการศุกษา 2528 ได้รับอนุมัติให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุในการดูแลขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค)เพื่อสร้างสนามกีฬา จำนวน 7 ไร่ 0 งาน 05 ตารางวา
ปีการศึกษา 2531 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการนำร่อง "การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรมัธยมศึกษา พุทธศักราช 2524 เพื่อประกอบอาชีพอิสระ"ของกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนจึงได้เปิดผนการเรียนอาชีพอิสระเพิ่มขึ้นอีก 1 แผนการเรียน และในปีนี้โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาการใช้หลักสูตรประจำปีการศึกษา 2532 โรงเรียนได้จัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็น 6-5-5 และในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็น 3-2-2 รวมจำนวนห้องเรียน 23 ห้อง
ปีการศึกษา 2533 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาหลักสูตร มีนักเรียน 802 คน ครู-อาจารย์ 47 คน จำนวนห้องเรียน 23 ห้อง นักการภารโรง 5 คน และพนักงานขับรถ 1 คน




ปีการศึกษา 2546 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการ"หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน"
ปีการศึกษา 2555 มีที่ดิน 48 ไร่ 0 งาน 18 ตารางวา มีครู-อาจารย์ 68 คน ครูอัตราจ้าง 8 คน พนักงานราชการ 2 คน มีจำนวนนักเรียน 1,600 มีนักการภารโรง 3 คน พนักงานขับรถ 1 คน
ปีการศึกษา 2556 ปัจจุบันมีที่ดิน 48 ไร่ 0 งาน 18 ตารางวา มีครู-อาจารย์ 63 คน ครูอัตราจ้าง 12 คน พนักงานราชการ 2 คน มีจำนวนนักเรียน 1,589 มีนักการภารโรง 3 คน พนักงานขับรถ 1 คน



วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

                       วันวาเลนไทน์









วันแห่งความรัก วาเลนไทน์ 

14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก วันที่ทุกคนจะมอบความรักให้กันและกันเป็นพิเศษ ในปีนี้ 255ั8วาเลนไทน์ ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์




        วันแห่งความรักของคนโสดคงไม่มีความหมายสักเท่าไร เพราะต่างคนก็มุ่งความสนใจไปที่คนมีคู่กันทั้งนั้น แต่ถึงวาเลนไทน์จะมีบรรยากาศของคนมีรักเต็มไปหมด คนโสดอย่างเรา ๆ (^^) ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิด หรือเศร้าใจไปเลยค่ะ เพราะอย่าลืมสิว่า ความรักในโลกนี้มีได้ตั้งหลายรูปแบบ เราไม่มีรักแบบคู่รัก แต่ก็ยังมีความรักให้ตัวเอง ความรักให้ครอบครัว ความรักให้เพื่อน ความรักให้สัตว์เลี้ยง และอีกสารพัดความรักในโลกใบนี้ จนกระจายความรักแทบไม่หวาดไม่ไหวเลยเชียวล่ะ





                                                           
  
                                                                สมุนไพร สะระแหน่
                                                             
                                              
            สะระแหน่เป็นสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นหอม เพราะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มาก สามารถสกัดออกมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมยา เป็นต้น เนื่องจากสะระแหน่เป็นพืชในสกุลมินต์ จึงมีกลิ่นคล้ายเมนทอล อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของลูกอมประเภทรสเย็นทั้งหลาย แม้สะระแหน่ไทยจะมีส่วนประกอบของเมนทอลอยู่ในน้ำมันหอมระเหยน้อยกว่ามินต์ชนิดอื่นๆ แต่สะระแหน่ก็มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดีเด่นไม่แพ้มินต์ชนิดใด อนาคตคงมีการพัฒนานำเอากลิ่นสะระแหน่ไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น  


  
  •  รักษาอาการปวดศรีษะ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น โดยดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่ 5 กรัม กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย  วันละ  2 ครั้ง
  •  รักษาอาการบิดท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด โดยนำใบสะระแหน่ต้มดื่มแต่น้ำ
  •  แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียด พอกบริเวณที่โดนกัด
  •  ช่วยห้ามเลือดกำเดาได้ โดยใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก
  •  รักษาอาการปวดหู โดยนำน้ำคั้นจากใบสะระแหน่หยอดหู จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
  •  รักษาอาการหน้ามือตาลาย โดยรับประทานน้ำต้มใบสะระแหน่และขิงส
                                                 
                                                          การบริการทางอินเตอร์เน็ด






 บริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการสืบค้น เข้าไป โปรแกรมจะทำการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ให้ภายในเวลาไม่กี่นาที โปรแกรมประเภทนี้เราเรียกว่าSearch Engines เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถจำชื่อเว็บไซด์ บางเว็บได้ ก็สามารถใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล ในลักษณะนี้ได้ เว็บไซด์ที่ทำหน้าที่เป็น Search Engines มีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น google.com , yahoo.com ,sanook.com ฯลฯ เป็นต้น
การสนทนากับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต จะคล้ายกับการใช้โทรศัพท์แต่แตกต่างกันที่ เป็นการสื่อสาร ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใช้ไมโครโฟน และลำโพงที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ในการสนทนา
กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ (News Group or Use Net) เป็นบริการกระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นลงไปบริเวณกระดานข่าวได้ มีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้ออกเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะสนใจเรื่องราวที่แตกต่างกันไป เช่นการศึกษา การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การเกษตร และอุตสาหกรรม เป็นต้น
                                                                      www






เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) คือบริการค้นหาและแสดงข้อมูลแบบมัลติมีเดีย บนอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ซึ่งข้อมูลและสารสนเทศอาจจัดอยู่ในรูปแบบของข้อความ รูปภาพ หรือ เสียงก็ได้ ข้อดีของบริการประเภทนี้คือ สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น หรือเว็บไซด์อื่นได้ง่าย เพราะใช้วิธีการของไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext) โดยมีการทำงานแบบไคลเอนท์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูล จากเครื่องที่ให้บริการซึ่งเรียกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยอาศัยโปรแกรม ที่ใช้ดูข้อมูลเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ซึ่งผลที่ได้จะมีการแสดงเป็นไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีการผนวกรูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และสามารถเชื่อมโยงไปยังเอกสารหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้โดยตรงตัวอย่างเช่น http://www.yahoo.com สามารถค้นหาและเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเรื่องราวต่างๆ เช่น การศึกษาการท่องเที่ยว โรงแรมต่าง ๆ การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เป็นต้น
                                                                         ข่าว




    ไขคำตอบซ้ำซาก! ชวนปวดใจ! ทำไมหนังไทย ไม่เติบโต


มีวิธีดีๆ ให้ทำตามอย่างอยู่แยะ มีคนไทยเก่งๆ ในวงการหนังอีกเยอะ แต่ทำไมภาพรวมหนังไทย ถึงแค่ดูเหมือนจะดี ยังไม่ฮิตเปรี้ยงปร้าง ไม่ฮอตต่อเนื่อง ไม่เป็นกระแสหลักยาวๆ เหมือนหนังจากประเทศอื่นๆ บ้าง
คุณสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด ผู้สร้างหนังคุณภาพเรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก และล่าสุดหนังเรื่อง ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน มุ่งมั่นทำงานหนังที่รักต่อไป ล่าสุดได้ร่วมทุนกับบริษัททำหนังชั้นนำของเกาหลีใต้ ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อร่วมกันผลิตหนังฟอร์มดีเรื่อง แตะขอบฟ้า ฉลุย 2015 โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 60 ล้านบาท
วงการไทยหนังเมื่อไหร่จะเจริญ พอจะเทียบเท่าเกาหลี? "มันมีหวัง แต่ทุกส่วนจะต้องมีความร่วมมือมาก คือเกาหลีหลักๆ เขาก็ไม่ได้มาขนาดนี้ ถ้าภาครัฐไม่ได้ช่วยเขาขนาดนั้น" ให้น้ำหนักของภาครัฐ ที่เข้ามาช่วยดันหนังเกาหลีสักกี่เปอร์เซ็นต์? "ถ้าในส่วนของรัฐบาลเกาหลี เขาก็ช่วยๆ กันเกิน 50% คือเขาเริ่มจากจะทำหนังของประเทศของเขาอย่างไรให้โต เขาก็มีกฎว่า ควบคุมหนังเมืองนอกก่อน คือให้เข้ามาฉายในปริมาณเท่าไหร่ สมมติว่าหนังเกาหลี 60% หนังต่างประเทศ 40% พอวางให้หนังเกาหลีออกฉายในประเทศที่ 60% แล้วทำยังไงให้ได้ 60% เขาก็เริ่มสนับสนุน เอ้า ใครทำหนังอย่างนี้ มาเอาเงินช่วยจากรัฐบาล"